ค่าใช้จ่ายในการจัดทำฐานข้อมูลด้วย Filemaker
การใช้งานฐานข้อมูล หรือโปรแกรมที่สร้างจาก Filemaker สามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
1. การใช้งานแบบ Online
การใช้งานแบบ Online จำเป็นจะต้องมี เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Server คอยให้บริการเครื่องลูกข่ายที่จะเข้ามาใช้งานระบบ วิธีการนี้จะทำให้ผู้ใช้หลายคนสามารถเข้าใช้งานฐานข้อมูลเดียวกันพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน โดยสามารถแบ่งการเข้ามาใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ
1.1 ผ่านทางโปรแกรม Filemaker Client โดยจะต้องทำการติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่องให้เรียบร้อยก่อนทำการเชื่อมต่อไปยัง Server
1.2 ผ่านทาง Web Browser ดูวิธีการนี้จะใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งมากับเครื่องในการเชื่อมต่อเข้าใช้งานระบบ
ทั้งนี้การใช้งานแบบ Online จำเป็นที่จะต้องซื้อ License ทั้งแบบ Server และ Client ซึ่งสามารถแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้สำหรับการใช้งานแบบ Online ได้ดังนี้
- เครื่องคอมพิวเตอร์ Apple Macmini ราคาประมาณ 3 - 4 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้รองรับการทำงานจากเครื่องลูกข่ายเป็นจำนวนเท่าใด เหตุที่ต้องใช้งานเครื่อง Apple เนื่องจากระบบปฏิบัติการเป็นแบบ Unix ซึ่งมีความเสถียร ในการทำงานมากกว่า Windows อีกครั้งไม่จำเป็นต้องซื้อระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม (https://www.apple.com/th/shop/buy-mac/mac-mini)
- License โปรแกรม Filemaker โดยจะต้องจัดซื้อแบบ Server - Client ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำสุดอยู่ที่ 1 Server 5 Client ราคาแบบรายปี ปีละ 900 USD หรือหากต้องการแบบซื้อครั้งเดียว ก็จะอยู่ที่ราคา 2700 USD ข้อดีของการซื้อแบบรายปี เราจะได้รับการอัพเดทอยู่ตลอดเวลาเนื่องจาก Filemaker จะทำการ Upgrade Version ทุกๆ 2 ปีอยู่แล้ว โดย Version ปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น 19 (https://winsoft-international.com/product/claris-filemaker-server-new/)
- License โปรแกรม Filemaker โดยจะต้องจัดซื้อแบบ Server - Client ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำสุดอยู่ที่ 1 Server 5 Client ราคาแบบรายปี ปีละ 900 USD หรือหากต้องการแบบซื้อครั้งเดียว ก็จะอยู่ที่ราคา 2700 USD ข้อดีของการซื้อแบบรายปี เราจะได้รับการอัพเดทอยู่ตลอดเวลาเนื่องจาก Filemaker จะทำการ Upgrade Version ทุกๆ 2 ปีอยู่แล้ว โดย Version ปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น 19 (https://winsoft-international.com/product/claris-filemaker-server-new/)
- ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเป็นการใช้งานภายในก็จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเชื่อมต่อภายในเท่านั้น ค่าใช้จ่ายจะสูงหรือไม่นั้นแล้วแต่ความเร็วและความซับซ้อนของระบบเครือข่ายในที่นั้นๆ
- หากมีความจำเป็นต้องให้บริการฐานข้อมูลผ่านทางระบบ Internet ก็จะต้องไปสมัครใช้บริการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย ราคานั้นจะขึ้นอยู่กับความเร็วในการให้บริการลูกข่ายจากภายนอกเป็นสำคัญ แต่หลักการเลือกใช้คือให้ความเร็ว Internet ขา Download และ Upload ควรจะมีขนาดความเร็วที่เท่ากัน
2. การใช้งานแบบ Offline
การใช้งานวิธีนี้เป็นการใช้งานที่ไม่ได้พึ่งพาเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือบริการอินเทอร์เน็ตไปอย่างไร แต่จะเป็นการทำงานโดยการนำเอาฐานข้อมูลไปทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์เป้าหมายโดยตรง ซึ่งจะเป็นการแยกกันทำงานโดยไม่ข้องเกี่ยวกัน แต่ละเครื่องก็จะมีฐานข้อมูลเป็นของตัวเองแยกกันไปไม่สามารถนำมาทำงานร่วมกันได้ การใช้งานแบบ Office แบ่งการทำงานได้ออกเป็น 2 รูปแบบคือ
2.1 ผ่านโปรแกรม Filemaker Client โดยจะต้องทำการติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่องให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ทำการคัดลอกฐานข้อมูลจากที่อื่นมาใช้งานได้เลย หรืออาจจะสร้างฐานข้อมูลจากเครื่องเป้าหมายเองเลยก็ได้ วิธีการนี้จำเป็นจะต้องซื้อ License Filemaker Client แบบซื้อครั้งเดียวในราคา 540 USD แต่มีข้อดีคือเราสามารถนำเอา License ไปติดตั้งในเครื่องอื่นๆได้แบบไม่จำกัด เพียงแต่จะไม่สามารถเชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายเพื่อมาทำงานในฐานข้อมูลเดียวกันได้เมื่อต้องการ
2.2 ผ่าน App Filemaker Go บนอุปกรณ์ iOS ซึ่งแจกให้ดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านทาง Apple Store (https://apps.apple.com/us/app/claris-filemaker-go-19/id1484857908) วิธีการนี้เราเพียงแค่คัดลอกฐานข้อมูลที่สร้างในคอมพิวเตอร์แล้วส่งไปทำงานบนอุปกรณ์ iOS ได้เลย ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ก็สามารถนำเอาฐานข้อมูลจากที่อื่นมาทำงานได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่อง License ทั้งนี้ Filemaker GO สามารถทำงานได้ทั้งแบบ Online และ Offline
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาในเบื้องต้น ยังจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ให้ทำการสร้างฐานข้อมูลอีกด้วย ซึ่งก็เป็นราคาที่ตกลงกันต่างหากไม่เกี่ยวข้องกับค่า License หรือระบบเครือข่ายแต่อย่างใด
สรุปแล้วการจัดทำฐานข้อมูลด้วย Filemaker จะมีค่าใช้จ่ายหลักๆดังนี้
- เครื่อง Computer Server
- ระบบ Network
- Internet
- Filemaker License
- Programmer
ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ผู้ว่าจ้างได้รับทราบถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นก่อนดำเนินการตัดสินใจจัดทำฐานข้อมูลด้วยโปรแกรม Filemaker ครับ